วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บาร์ซ่ากับแชมป์ UCL สมัยที่ 4 (แฟนผีเห็นแล้วปวดใจจริงๆ)




             บาร์เซโลน่าเล่นกันได้สมกับเป็นสโมสรเบอร์หนึ่ง ของโลก เมื่อโชว์เกมสุดแกร่งไล่อัดทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่วันนี้ทำได้เต็มที่แค่ยันเอาไว้ แต่สุดท้ายไม่ไหวจริงๆ พ่ายแพ้ไป 3-1 ส่งให้ "เจ้าบุญทุ่ม" กลายเป็นเจ้าของถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีกเป็นสมัยที่ 4 ไปอย่างยิ่งใหญ่ นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2554 บาร์เซโลน่า 3 : 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู : 1-0 เปโดร น.27,1-1 เวย์น รูนี่ย์ น.34,2-1 ลีโอเนล เมสซี่ น.54,3-1 ดาวิด บีญ่า น.69 ไม่ต้องบอกเลยก็รู้ว่านี่เป็นแมตช์ที่ทุกคนรอคอยมานาน เพราะเป็นการพบกันระหว่างบาร์เซโลน่ายอดแชมป์จากลา ลีกาพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแชมป์จากพรีเมียร์ ลีกที่จะได้พบกันในศึกตัดสินที่แฟนๆต่างก็จับจ้องกันไม่ขาด วันนี้บาร์เซโลน่าไม่มีคาร์เลส ปูโยล โดยส่งเอริค อบิดัลลงเล่นเป็นแบ็คซ้ายในเกมนี้ และแน่นอนเลยว่าขุมกำลังหลักของทีมยังคงอยู่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นลีโอเนล เมสซี่,ชาบี้,อังเดรส อิเนสต้า,ดาวิด บีญ่าที่พร้อมลงทะลวงทีมจากอังกฤษแบบไม่ยั้ง ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเองก็ส่งทีมลงเล่นแบบฟูลๆเช่นเดียวกัน มีเวย์น รูนี่ย์และอาเวียร์ เอร์นานเดซยืนหน้าคู่คอยหาโอกาสที่จะพังประตูให้จงได้ ส่วนกองกลางปีกทั้งสองข้างเน้นไปในตัวที่เล่นได้ทั้งรุกและรับอย่างปาร์ค จี ซองกับอันโตนิโอ วาเลนเซีย มีไรอัน กิ๊กส์เป็นตัวทำเกมและไมเคิ่ล คาร์ริคคอยคุมแดนกลาง แต่ที่น่าแปลกใจมากเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ดก็คือเกมนี้ไม่มีชื่อของดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟซึ่งก็ไม่ได้มีข่าวว่าเจ็บก่อนเกมแต่อย่างใด ทั้งตัวสำรองและตัวจริง ครึ่งแรก ผีเปิดฉากไล่แหลก เริ่มเกมมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีบทเรียนมาจากเมื่อสองปีก่อน วันนี้เลยมาด้วยเกมที่บีบพื้นที่ในทุกๆจังหวะ ตัดตั้งแต่แดนหน้าเพื่อไม่ให้บาร์เซโลน่าทำเกมได้สะดวกอย่างเคย ต้องดูว่าเมื่อเวลาผ่านไปเกมจะเอียงไปทางฝ่ายไหนกันแน่ บาร์ซ่าเริ่มเข้าฟอร์ม ผ่านช่วง 10 นาทีแรกไป ตอนนี้เป็นบาร์เซโลน่าที่เริ่มเซ็ตเกมของตัวเองได้มากขึ้นแล้ว เพียงแต่จังหวะสุดท้ายที่จะทะลวงเข้าไปเจาะแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดยังไม่มี ให้เห็นเท่าไร แต่ถ้าให้บาร์เซโลน่าได้ครองบอลแบบนี้ แน่นอนเลยว่าจะต้องหาช่องได้ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ซึ่งลูกทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันคงต้องมีวิธีการรับมือที่แน่นอนกว่านี้ หากหวังได้ชัยชนะ ซี๊ดคร้าบ!เปโดรโฉบบอลหลุดกรอบ นาทีที่ 15 บาร์เซโลน่าบุกกดดันจนได้โอกาสลุ้นเสียวกันทั้งสนาม จากจังหวะที่ส่งบอลป้วนไปเปี้ยนมาหน้ากรอบเขตโทษของแมนฯยูไนเต็ด ก่อนที่จะเป็นชาบี้เปิดทางฝั่งขวาให้กับเปโดรพุ่งเข้าไปชาร์จที่เสาแรก แต่เหมือนถูกเบียดแซะเอาไว้นิดหนึง ทำให้ยิงไม่ถนัดบอลหลุดกรอบออกไป บาร์ซ่ามาเต็ม!บีญ่าส่องหลุดไปนิด อีก 4 นาทีต่อมา ตอนนี้กลายเป็นบาร์เซโลน่าที่ครองเกมได้แบบเบ็ดเสร็จแล้ว บุกกดดันใส่แมนฯยูไนเต็ดแบบไม่หยุด จนมาได้โอกาสจบของทางบีญ่าที่ส่องนอกกรอบเขตโทษ แต่ก็หลุดเสาออกไป ป๋าชักกริ้วแล้วตอนนี้ เล่นไปเล่นมาเห็นลูกทีมเป็นรองหนัก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเลยอยู่เฉยไม่ได้ ต้องออกมาตะโกนสั่งแบบหน้าดำคร่ำเครียดที่ข้างสนาม เหมือนกับว่าเล่นกันไม่ได้ดั่งใจยังไงยังงั้น โดนไปเลย!เปโดรว่างแล้วก็ซัดหายจ้า นาทีที่ 27 ความผิดพลาดในแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดบวกกับความเฉียบคมของเปโดร ทำให้บาร์เซโลน่าได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะที่แนวรับของ "ปีศาจแดง" หละหลวมไม่ยอมประกบเปโดรที่ว่างโล่งทางด้านขวา ชาบี้ไม่พลาดโอกาสแทงบอลทะลุไปให้ก่อนที่เจ้าหนูเลือดกระทิงจะแตะบอลก่อน หนึงจังหวะแล้วซัดไปที่เสาแรก บอลพุ่งเสียบตาข่ายสุดปัญญาที่ฟาน เดอร์ ซาร์จะรับเอาไว้ได้ "เจ้าบุญทุ่ม" ขึ้นนำไปก่อนแล้ว 1-0 เอาล่ะเว้ย!ผีได้คืนเร็ว-ไอ้หมูซัดหาย นาทีที่ 34 จากจังหวะที่บาร์เซโลน่าได้ลูกทุ่มแล้วไปโดนตัดบอล ก่อนที่รูนี่ย์จะจ่ายไปให้กับกิ๊กส์ ซึ่งแม้ว่าดูจากภาพช้าแล้วจะเหมือนเหลื่อมอยู่นิดๆ แต่ผู้ตัดสินไม่ยกธง ปีกขนดกจ่ายกลับมาให้ไอ้หมูที่วิ่งเติมขึ้นมาแปจังหวะเดียวส่งบอลพุ่งผ่าน มือของบัลเดสเสียบตาข่ายไม่เหลือ แมนฯยูไนเต็ดได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 แล้ว เกมเริ่มกลับมาสูสี จากตอนแรกที่บาร์เซโลน่าได้ประตูขึ้นนำแล้วต่อบอลกันอย่างชิลๆ แต่พอโดนตีเสมอ ตอนนี้เกมถือว่าไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก นอกเสียจากการที่บาร์เซโลน่ายังคงครองบอลได้มากกว่า เหลือจังหวะสุดท้ายเพียงเท่านั้น ส่วนแมนฯยูไนเต็ดก็อาศัยลูกสวนกลับ เพียงแต่ยังไม่ค่อยแม่นกันเท่าไร โคตรน่าได้!เมสซี่ขาสั้นไปจิี๊ดเดียว นาทีที่ 43 บาร์เซโลน่าโคตรน่าจะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนหมดครึ่งแรก จากจังหวะที่เมสซี่ลากบอลทะลุขึ้นไปตรงกลาง แล้วป้ายบอลต่อให้กับบีญ่าที่รู้งานจัดการตบเข้ากลางทันที หมายให้เมสซี่พุ่งเข้าชาร์จเพื่อประตูเหน่งๆ แต่เหมือนจะช้าไปเพียงแค่เสี้ยววิเท่านั้น ทำให้เข้าไม่ถึงบอลและพลาดโอกาสทองในครั้งนี้ไป จบ 45 นาทีต้องบอกเลยว่าช่วงครึ่งแรกนั้นบาร์เซโลน่ทำได้ดีกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงแต่ความเด็ดขาดยังถือว่าไม่ได้ต่างกันสักเท่าไรนัก ซึ่งคงต้องดูกันยาวๆต่อไป ครึ่งหลัง บาร์ซ่ามาเกมดุเลย เริ่มครึ่งหลังแตกต่างจากช่วงครึ่งแรกค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นทางบาร์เซโลน่าที่ตอนนี้เกมเข้าที่เข้าทาง ทำเกมบุกใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแบบไม่ให้ได้หยุดหายใจ เพียงแต่ "ปีศาจแดง" ยังคงรักษาสมดุลเอาไว้ได้อยู่ เลยไม่เพลี้ยงพล้ำไปก่อน นี่มันระดับโลก!เมสซี่ยิงโคตรเฉียบ นาทีที่ 54 เมสซี่โชว์ความเป็นนักเตะระดับโลก หลังจากที่บาร์เซโลน่าเคาะบอลกันไปมาหลายจังหวะ ก่อนที่บอลจะมาถึงเมสซี่ เจ้าตัวแตะเข้ากลางตามสเต็ปเพื่อให้เข้าเท้าซ้าย แล้วรีบสับไกยิงจากนอกกรอบแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว บอลพุ่งอ้อมกองหลังของแมนฯยูไนเต็ด แม้ว่าจะไม่ห่างตัวฟาน เดอร์ ซาร์เท่าไร แต่บอลแฉลบพื้นหนึ่งจังหวะติดไซร้โป้งหนีมือก่อนที่จะพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไป อย่างสวยงาม บาร์เซโลน่าขึ้นนำไปอีกครั้งเป็น 2-1 ผีจะทำยังไง ตอนนี้งานช้างตกไปที่ลูกทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแล้ว เมื่อต้องพยายามแก้เกมให้กลับมาตีเสมอให้ได้เสียก่อน เพราะตอนนี้รูปเกมต้องบอกเลยว่าเป็นรองค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะจังหวะเกมรุกที่จะหาช่องเจาะแนวรับของบาร์ซ่าดูเหมือนว่าจะยากเหลือ เกิน เกือบไปแล้ว!เมสซี่ยิงติดเซฟ นาทีที่ 65 แมนฯยูไนเต็ดเกือบโดนเมสซี่เล่นงานอกีครั้ง จากจังหวะที่แข้งอาร์เจนไตน์ลากบอลแวกกองหลังดุ่ยๆแบบไม่สนใจใครแตะหนี เฟอร์ดินานด์ ก่อนที่จะรีบยิงด้วยซ้ายทันที แต่ไปติดขาของฟาน เดอร์ ซาร์ที่แม้จะล้มตัวไปทางเสาไกลแต่ก็ยังเซฟเอาไว้ได้แบบเฉียดฉิว ผีเคราะห์ซ้ำ!ฟาบิโอตะคริวกิน หลังจากทุ่มทุนสร้างวิ่งช่วยเพื่อนทั้งขึ้นทั้งลงไม่ว่าจะรุกหรือรับตลอด รวมทั้งการไปสกัดจังหวะสุดท้ายก่อนที่บาร์เซโลน่าจะได้ยิงเหน่งๆ ทำให้ฟาบิโอถึงกับตะคริวกินและต้องมีคนไปปฐมพยาบาล แม้ว่าสุดท้ายแล้วฟาบิโอจะเล่นต่อได้ แต่ตอนนี้เกมกลายเป็นของบาร์เซโลน่าแทบจะทั้งหมดแล้ว ได้ลุ้นยิงเหน่งๆทั้งจากจังหวะขอชาบี้และอิเนสต้าที่ส่องนอกกรอบเขตโทษ แต่ติดตรงที่ฟาน เดอร์ ซาร์ยังคงเหนียวหนึบเซฟเอาไว้ได้อยู่ ผีส่งบังลงแต่ถอดฟาบิโอออก นาทีที่ 68 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่มีอะไรจะเสีย ต้องเปลี่ยนเอาฟาบิโอที่มีอาการตะคริวออกไปและส่งนานี่ซึ่งเป็นตัวรุกลงมา แทน ขึ้นอยู่กับว่าจะวางเล่นอย่างไร ผีจบเห่!บีญ่าส่องสวยสุดตีน แต่อีกหนึ่งนาทีต่อมา จากจังหวะการสกัดไม่ขาดของผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งก็เป็นนานี่ที่เพิ่งลงไปและไปช่วยเกมรับ ดันไปทำบอลกระฉอกเข้าเท้าของบุสเก็ตส์ แล้วแตะต่อให้กับบีญ่ายิงแบบปั่นๆบอลพุ่งโค้งข้ามหัวบรรดาผู้เล่นที่ยืนบัง อยู่พร้อมกับข้ามมือของเฟาน เดอร์ ซาร์เข้าไปเสียบตาข่ายแบบไม่รู้จะบรรยายถึงความสวยงามของลูกนี้ยังไง บาร์เซโลน่าทิ้งห่างเป็น 3-1 แล้ว ผีชักจะไปไม่เป็น พอโดนประตูที่สามเข้าไป ตอนนี้แม้ว่าจะพยายามเร่งเครื่องแค่ไหน แต่เกมของแมนฯยูไนเต็ดแทบจะไปไหนไม่ได้นอกจากการพยายามที่จะจ่ายบอลกันไปให้ ถึงหน้ากรอบเขตโทษของบาร์เซโลน่า แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผลอะไร นอกจากติดกำแพงแล้วโดนเตะสวนกลับมาเท่านั้น หมดทางเลือก!ผีส่งหมามุ่ยลง นาทีที่ 76 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่เหลือทางเลือกใดๆนอกจากต้องเดินหน้าลุยอย่างเดียวเท่านั้น จัดการส่งสโคลส์ลงไปเล่นแทนคาร์ริค ซึ่งเป็นการให้ตัวรุกไปเล่นแทนตัวรับกันเลยทีเดียว ต้องดูว่าจะยิงได้หรือโดนยิงเพิ่มกันแน่ด้วย ผีดิ้นรนเต็มที่ ตอนนี้ยิ่งเวลาใกล้จะหมดมากแค่ไหน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็พยายามเร่งเครื่องกันเต็มที่ เพราะบาร์เซโลน่าผ่อนเกมลงไปเน้นเกมกันให้มั่นคงแล้ว หากยังยิงไม่ได้ตอนนี้ ดูเหมือนความหวังของ "ปีศาจแดง" คงริบหรี่เต็มที จบ 90 นาทีบาร์เซโลน่าที่เล่นกันได้อย่างสุดยอดเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ 3-1 คว้าแชมป์ยุโรปได้อย่างสวยสดงดงามสุดๆ ที่นาประทับใจก็ตรงที่หลังจบเกมกุนซือของทั้งสองทีมต่างเดินเข้าหากันและ ยิ้มแย้มให้กันแบบเต็มที่ เหมือนกับว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเองก็ยอมรับว่าลูกทีมของเขาสู้กับทางลูกทีมเป๊บ กวาร์ดิโอล่าไม่ได้เลยในเกมนี้ อย่างน้อยก็เป็นน้ำใจนักกีฬาในความผิดหวังที่แฟนบอลทุกคนอยากที่จะเห็น และสุดยอดความประทับใจที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องขนลุกและซูฮกให้กับสปิริตของ ทีมบาร์เซโลน่าก็คือการมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้กับเอริค อบิดัลเพื่อเป็นคนชูถ้วยแชมป์ หลังจากที่เขาต่อสู้กับโรคมะเร็งจนสามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง เป็นภาพที่น่าจดจำเสียจริง รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม บาร์เซโลน่า : วิคตอร์ บัลเดส,เคราร์ด ปิเก้,ฮาเวียร์ มาสเชราโน่,เอริค อบิดัล,ดาเนียล อัลเวส(ปูโยล น.88),แซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์,อังเดรส อิเนสต้า,ชาบี้,ดาวิด บีญ่า(เกอิต้า น.86),ลีโอเนล เมสซี่,เปโดร(อเฟลลาย น.90+2) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เนมันย่า วิดิช,ริโอ เฟอร์ดินานด์,ปาทริซ เอฟร่า,ฟาบิโอ(นานี่ น.69),ไรอัน กิ๊กส์,ไมเคิ่ล คาร์ริค(สโคลส์ น.77),ปาร์ค จี ซอง,อันโตนิโอ วาเลนเซีย,ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ,เวย์น รูนี่ย์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลิ๊กเข้าสมัคร12BET